"เป้าหมายในชีวิต...ของคุณคืออะไร"
หนังสือ Self Help เล่มหนึ่งได้เขียนบรรยายถึงฉากสนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง ชายผู้เป็นพ่อนั่งเกาะขอบสนามฟุตบอล ในขณะที่ลูกชายของเขากำลังอยู่ในสนามแข่งขันและได้ครองลูกบอลอยู่บริเวณหน้าประตู
“ยิงเลย โจ ยิงเลย !!!”
ผู้คนรอบสนาม รวมทั้งผู้เป็นพ่อตะโกนเชียร์เสียงดังลั่น แต่โจกลับผ่านลูกไปให้เพื่อนเป็นผู้ยิงแทนเขา โจผ่านลูกที่ตนเองน่าจะเป็นผู้ยิงหลายต่อหลายครั้ง หลังการแข่งขันสิ้นสุดลง ผู้เป็นพ่อได้ถามโค้ชว่า
“โจ ฝีมือยิงลูกบอลไม่ดีเลยหรือครับ”
โค้ช ตอบว่า
“โจฝีมือดีทีเดียว...ที่เขาไม่ยิงลูก ผมคิดว่าคงเป็นเพราะเขากลัวจะยิงพลาดมากกว่าครับ”
หลายครั้งคนเราไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม ได้ใช้ชีวิตบนความกลัว กลัวที่จะผิดพลาดเหมือนกับโจ กล่าวคือไม่กล้าที่จะตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่กล้าที่จะคาดหวังใดๆ เกี่ยวกับชีวิตในวันข้างหน้าของตนเอง ด้วยเหตุผลหลักประการเดียวคือ..."กลัวว่าจะล้มเหลว หรือกลัวว่าจะไปไม่ถึงฝัน"
ความกลัวนี้มักทำให้คนจำนวนไม่น้อยใช้ชีวิตแต่ละวันไปอย่างไร้ทิศทาง ไม่มีความกระฉับกระเฉง ไม่มีชีวิติชีวา และที่สำคัญอย่างไม่ได้รู้ว่ามีคุณค่าอะไร ไร้พลัง เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย หรือที่เรียกว่า “การใช้ชีวิตอย่างไม่มีเป้าหมาย” นั่นเอง
รู้จัก...เป้าหมายในชีวิต
เป้าหมายในชีวิตของคนๆ หนึ่ง คือ สิ่งที่คนๆ นั้นให้ความหมาย ให้ความสำคัญ และอยากให้สิ่งๆ นั้นเกิดขึ้นในชีวิตของเขา หลายครั้งเป้าหมายในชีวิตทำหน้าที่เหมือนขั้วแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ดึงดูดคนเราให้ลงมือทำสิ่งต่างๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายนั้น คนที่มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน จะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรบ้าง รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เพื่อใคร และเพื่อที่จะทำอะไร
คำถามที่มักพบคือ เพราะเหตุใดคนเราจึงมีปัญหาในการตระหนักถึงเป้าหมายในชีวิตของตน แม้ว่าจะอยู่ในวิสัยที่ทำได้ แต่ก็ไม่ได้ทำ หรือว่าเรายุ่งเกินไป หรือเรามีเรื่องรกใจ หรือมีอะไรต้องทำมากมายเกินไป จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะปล่อยให้ชีวิตล่องลอยไปตามผู้คนแวดล้อมบอกให้ทำ หรือตามสังคมบอกว่าดี โดยไม่รู้ตัวว่าตนเองต้องการอะไร หรือปล่อยให้เรื่องที่เคยต้องการจะทำหลายเรื่องผ่านไป เพราะสาเหตุว่าเรามีเป้าหมายในชีวิตไม่ชัดเจน
คำอธิบายหนึ่งที่เป็นไปได้ คือ สิ่งที่คนเราตั้งใจทำอาจจะไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของเขาก็ได้ จริงอยู่คนเรานึกได้ว่าต้องทำโน่นต้องทำนี่ นั่นคือการมีความตั้งใจ แต่ความตั้งใจไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต ความตั้งใจคือการที่เราตกลงใจว่าจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เป้าหมายในชีวิตจะเป็นการตั้งทิศทางที่มุ่งไปสู่บางสิ่งที่คนเราเห็นว่าสำคัญหรือมีความหมายต่อเขา เป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเลือกความเป็นไปได้ต่างๆ และนำไปสู่การกระทำกิจกรรมต่างๆในชีวิต
“แน่นอนว่าเป้าหมายในชีวิตทุกข้อจะเริ่มขึ้นจากความตั้งใจก่อนเสมอ”
ที่มา>> http://www.youthonlinecps.com >> http://goo.gl/0Z3mWX
ทำไมต้องตั้งเป้าหมาย?
ทำไมต้องวางแผนชีวิต?
ลองชม VDO ก่อนครับ
ทำไมต้องตั้งเป้าหมาย?
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ก่อนที่จะขี่จักรยานได้
ทุกคนคงเคยล้มกันมาก่อน ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ได้มาไม่รู้กี่แผล บางคนล้มแล้วก็กลัวที่จะลุกขึ้นมาใหม่ เพราะกลัวความเจ็บปวด
หากเปรียบการขี่จักรยานได้คือความสำเร็จ
สิ่งที่ต้องทำคือ เผชิญหน้ากับความกลัว ตั้งสติ มองไปข้างหน้า แล้วลองอีกครั้ง ถ้าล้มอีกก็ลองใหม่ บอกกับตัวเองเสมอ "คุณทำได้"
ถ้าคุณเชื่อและมุ่งมั่นมากพอ ไม่นานคุณก็จะใช้มันอย่างคล่องแคล่ว
ทั้งจักรยานและชีวิตของคุณ
หากเปรียบการขี่จักรยานได้คือความสำเร็จ
สิ่งที่ต้องทำคือ เผชิญหน้ากับความกลัว ตั้งสติ มองไปข้างหน้า แล้วลองอีกครั้ง ถ้าล้มอีกก็ลองใหม่ บอกกับตัวเองเสมอ "คุณทำได้"
ถ้าคุณเชื่อและมุ่งมั่นมากพอ ไม่นานคุณก็จะใช้มันอย่างคล่องแคล่ว
ทั้งจักรยานและชีวิตของคุณ
เป็นความจริงที่ว่าไม่มีใครสร้างบ้านได้ โดยไม่มีพิมพ์เขียว
แต่น่าแปลกที่คนจำนวนมากสร้างชีวิต โดยไม่เคยมี "แผนการ"
คนส่วนใหญ่ปล่อยชีวิตให้ไหลไปตามที่มันอยากจะเป็น
บ้างฝากชีวิตไว้กับดวง บ้างบอกว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตมาแล้ว พยายามไปก็เท่านั้น บ้างถูกคนนั้นจูงไปที บ้างก็ถูกคนนี้ผลักไปทางอื่น เหมือนชีวิตไม่ใช่ของเรา
คนส่วนใหญ่ปล่อยชีวิตให้ไหลไปตามที่มันอยากจะเป็น
บ้างฝากชีวิตไว้กับดวง บ้างบอกว่าโชคชะตาฟ้าลิขิตมาแล้ว พยายามไปก็เท่านั้น บ้างถูกคนนั้นจูงไปที บ้างก็ถูกคนนี้ผลักไปทางอื่น เหมือนชีวิตไม่ใช่ของเรา
ทำไมต้องวางแผนชีวิต?
“หมากรุก...เวลาเดินยังต้องคิด หมากชีวิต...แล้วเราจะไม่คิดได้ไง”
“หมากรุกจะเดินให้ชนะ
มันต้องคิด, หมากชีวิตถ้าเดินไม่คิด
ชีวิตจะเป็นอย่างไร?”
หากเราเปรียบชีวิตของเราเป็นเหมือนเกมหมากรุกสักกระดานหนึ่ง ชีวิตเราคงเต็มไปด้วยการต่อสู้กับอุปสรรค เงื่อนไข
ความกดดัน และระยะเวลา บนกติกาที่ถูกกำหนดขึ้นร่วมกัน
และหากชัยชนะในเกมหมากรุกคือเป้าหมายของการแข่งขัน ในเกมชีวิตก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ หากแต่มีปัจจัยของการเดินไปสู่เป้าหมายที่มากกว่า
บางครั้งเราอาจต้องยอมเป็นผู้แพ้เพื่อเรียนรู้ที่จะกลับมาเป็นผู้ชนะ
ถ้าทุกจังหวะการเดินบนกระดานหมากรุกเหมือนทุกก้าวบนเส้นทางสายชีวิต
คุณก็ต้องคิด และคุณก็คือผู้กำหนดมันขึ้นมาเอง
http://blog.umitems.com/2014/04/blog-post.html
หรืออีกนัยหนึ่ง
มี Idea มาจากการเล่นหมากล้อม การฝึกหมากล้อมอย่างจริงจัง ก็ลงเวลาลงแรงไปเยอะ
เลยมาคิดว่าถ้า เอาเวลาเอาความพยายามเดินหมากล้อมมาเดินหมากชีวิตแทนน่าจะดีไม่น้อย
การเดินหมากล้อมต้องคิดล่วงหน้า ว่าถ้าเดินตรงนี้แล้วต่อไปจะทำอะไรๆ
สรุปแล้ว การเดินหมากชีวิต
ก็คือการวางแผนชีวิตนั่นแหละ
แล้วเราจะวางแผนอะไร
วางยังไง เอาง่ายๆแต่ละวันควรทำไรบ้าง อะไรบ้างที่ต้องทำทุกสัปดาห์ ทุกเดือน เป้าหมายระยะยาวคืออะไร
การงาน ครอบครัว? ทีนี้เพราะเป็นคนคิดมาก นั่งนิ่งๆ
ก็มีไอเดียโผล่ขึ้นมา อยากทำนู่นอยากทำนี่ ตลอดเวลา ทีนี้มันก็เริ่มวุ่นวาย
คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรก็หลัง สรุปง่ายๆคือ
เรามีสิ่งที่อยากทำหลายอย่าง หลายเรื่องมาก
ถ้าเอางานทั้งหมดมาจัดมาเชื่อมโยงกันทั้งหมด เราจะได้เห็นภาพใหญ่ทั้งหมด
พอได้ภาพใหญ่ มันจะช่วยตัดสินใจว่าจะทำงานไหนก่อนหลัง
[ชีวิตของเราเป็นเสมือนจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่
ที่จะต้องต่อ "ทีละชิ้นๆ" ให้ประสานกันอย่างดี]
ชีวิตของเราเป็นเสมือนจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่ที่จะต้องต่อ "ทีละชิ้นๆ" ให้ประสานกันอย่างดี จิ๊กซอว์ดังกล่าวมีทั้งหมดมากถึง 29,220 ชิ้น ตามอายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์ คือ 365 วัน X 80 ปี = 29,220 ชิ้น ในช่วง 80 ปีนี้ ถ้าคำนวณเดือนกุมภาพันธ์ที่มี 29 วัน อีก 20 ครั้งเข้าไปด้วย จำนวนจิ๊กซอว์ก็จะเพิ่มมากขึ้นอีก และถ้าในอนาคตวิทยาการทางการแพทย์ดีขึ้น อายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์ก็อาจเพิ่มมากขึ้น จำนวนจิ๊กซอว์อาจมากถึง 30,000 ชิ้น
ที่จะต้องต่อ "ทีละชิ้นๆ" ให้ประสานกันอย่างดี]
ชีวิตของเราเป็นเสมือนจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่ที่จะต้องต่อ "ทีละชิ้นๆ" ให้ประสานกันอย่างดี จิ๊กซอว์ดังกล่าวมีทั้งหมดมากถึง 29,220 ชิ้น ตามอายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์ คือ 365 วัน X 80 ปี = 29,220 ชิ้น ในช่วง 80 ปีนี้ ถ้าคำนวณเดือนกุมภาพันธ์ที่มี 29 วัน อีก 20 ครั้งเข้าไปด้วย จำนวนจิ๊กซอว์ก็จะเพิ่มมากขึ้นอีก และถ้าในอนาคตวิทยาการทางการแพทย์ดีขึ้น อายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์ก็อาจเพิ่มมากขึ้น จำนวนจิ๊กซอว์อาจมากถึง 30,000 ชิ้น
จุดที่แตกต่างกันระหว่างจิ๊กซอว์ทั่วไปกับจิ๊กซอว์ชีวิต
คือเราสามารถเห็นภาพจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์แล้วก่อนลงมือต่อ
ในทางตรงกันข้ามไม่มีใครรู้ได้ว่า ภาพจิ๊กซอว์ชีวิตจะออกมาเป็นอย่างไร
จนกว่าจะต่อเสร็จ
มีเพียงตัวเราเท่านั้นที่ต้องต่อภาพนั้นขึ้นเองทีละน้อยทีละนิด
ผู้คนมากมายอยากประสบความสำเร็จในชีวิตเร็วๆ
ดูเหมือนว่าการประสบความสำเร็จด้วยอายุน้อย คือความหวังสูงสุดที่ทุกคนปรารถนา
พวกเราดูนาฬิกาบ่อยๆเพื่อตรวจสอบว่า สิ่งที่ทำก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว
แต่เรากลับลืมไปว่า
สิ่งที่จำเป็นมากกว่านาฬิกาคือเข็มทิศ
เพราะความสำเร็จของชีวิตตัดสินจากจิ๊กซอว์ตัวสุดท้าย สิ่งที่สำคัญมากกว่า
"ไปเร็วแค่ไหน" คือ "ไปถูกทางหรือไม่"
นอกจากนี้ สิ่งที่จำเป็นมากกว่าเข็มทิศคือกระจก
เราต้องใช้กระจกส่องย้อนตัวเองเสมอว่า
"ตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่" แต่คนเรามักต้องการนาฬิกามากกว่าเข็มทิศ
ต้องการเข็มทิศมากกว่ากระจก
ความสำเร็จของชีวิต
ไม่ใช่ความสำเร็จยิ่งใหญ่เพียงครั้งเดียว
แต่เป็นการถักทอชัยชนะขึ้นทุกวัน
การเฝ้ารอชัยชนะแบบพลิกล๊อกหรือรอจุดเปลี่ยน
เป็นการเสียเวลาชีวิตในแต่ละวันไปโดยเปล่า ยิ่งเป็นคนที่ไร้ความสามารถ
ก็จะยิ่งชอบจินตนาการว่า
"สมมติว่าเป็นแบบนั้น....ถ้ามีโอกาสแบบนี้...." จงอย่าสมมติ
ให้ลงมือทำเลยในตอนนี้ จงปลูกเมล็ดความฝันให้ผลิบานขึ้นจริงในทุกๆวัน
เวลาวัตถุดิบสร้างวิญญาณให้มนุษย์
จงอย่ารอคอยปาฏิหาริย์หรือการพลิกล็อกใดๆในชีวิต
ให้ลงมือปฏิบัติจริงในตอนนี้เลย เมื่ออยู่ต่อหน้าปัญหาที่มองไม่เห็นทางแก้
จงอย่ากังวลใจว่า "ต้องทำอย่างไร" แต่จงไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่า
"วันนี้ฉันจะสามารถทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้บ้าง"
มีใครคนหนี่งกล่าวไว้ว่า "ต่อให้เราสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีต ก็ไม่มีทางแก้ไขอดีตได้
แต่ถ้าเริ่มต้นใหม่ในตอนนี้ จะสามารถเปลี่ยนผลลัพท์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้"
จงร่างภาพจิ๊กซอว์ของชีวิตคุณตั้งแต่ตอนนี้
จงจินตนาการถึงภาพขนาดใหญ่ของชีวิตที่อยากเห็นในวันสุดท้ายเมื่อต้องการลาจากโลกนี้ไป
ถ้าคิดว่า วันนี้เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นหนึ่งของชีวิต
หากจิ๊กซอว์ชิ้นนี้ขาดหายไป คุณจะรู้สึกเสียดายมากแค่ไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น